ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ถุงใต้ตา เป็นจุดที่ ทำให้หน้าดูมีอายุ โทรมและไม่สดใส
หมอจึงแนะนำการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อนำ สารที่นิยมใช้คือ ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและเติมเต็มพื้นที่ที่ยุบหรือมีร่องลึก
ปัญหาร่องใต้ตาหรือ “ร่องใต้ตาลึก” เกิดจาก บางสาเหตุหลักๆ ได้แก่ :
1. การเสื่อมสภาพของผิวหนัง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวจะลดลง
2. เกิดจากพันธุกรรมครอบครัว ซึ่งมักจะส่งผลต่อรูปร่างใบหน้า
3. การนอนหลับไม่เพียงพอ การนอนน้อยหรือคุณภาพการนอนไม่ดี
4. ความเครียดและสุขภาพจิต ทำให้ผิวหมองคล้ำและร่องใต้ตามากขึ้น
5. การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวแห้งและสูญเสียความยืดหยุ่น
6. การขาดน้ำ การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
7. การแพ้หรือภูมิแพ้ การแพ้สามารถทำให้มีอาการบวมใต้ตาหรือรอยคล้ำใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ?
1. คนที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าดูไม่สดใส เหมือนคนพักผ่อนน้อย
2. คนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา หลังจากทำการเติมเต็มโดยฟิลเลอร์แล้ว บริเวณใต้ตาจะอิ่มฟู ร่องใต้ตาดูเรียบเนียน
3. คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาจากอายุเที่เพิ่มขึ้น กะดูกยุบตัว เอ็นยึดใต้ตาหย่อน ฟิลเลอร์จะไปเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป และช่วยชะลอความชราในอนาคตได้ ทำให้ถุงใต้ตาเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์
4. คนที่กลัวการผ่าตัด ไม่มีเวลาพักฟื้น
5. คนที่อยากเห็นผลลัพธ์ทันทีที่ทำ
ปัญหาใต้ตาที่สามารถแก้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา มีลักษณะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ตา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ฟิลเลอร์แบบใด และกี่ cc จึงจะเห็นผล
บริเวณใต้ตาเป็นพื้นที่ท่บอบบาง มีเส้นเลือดอยู่เยอะ หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ หรือฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้ใช้ของแท้ อาจทำให้ฟิลเอร์เป็นก้อนได้ เพราะแพทย์ที่ชำนาญจะมีเทคนิคการฉีดเฉพาะ แต่ละเคสต้องเติมฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ CC ซึ่งใช้ปริมาณ CC มาก-น้อย ไม่เท่ากัน ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินเป็นรายบุคคล
-- ฟิลเลอร์เนื้อแข็งสำหรับใต้ตาชั้นลึก ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 1-2 cc ต่อข้าง
-- ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มสำหรับใต้ตาชั้นตื้น ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 0.5-1 cc ต่อข้าง
ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตามีการยุบตัวมาก ๆ ใต้ตาลึกมาก อาจจะใช้ข้างละ 2-3 CC ปัญหาทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาข้างละ 1-2 CC ในการรักษา ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลหลังทำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้นและรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดื่มน้ำเยอะๆ ไม่ควรแตะ แกะ เกา ในบริเวณที่ทำ หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด การซาวน่า เลเซอร์ร้อน ตากแดด ออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 3 วันแรกหลังทำ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่เผ็ดมากจนหน้าแดง อาหารหมักดอง อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
งดสูบบุหรี่
หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะ ๆ ในช่วง 3 วันหลังทำ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
1 ชม.หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้
สำหรับใครที่มีปัญหาและกำลังกังวลในเรื่องของริ้วรอยใต้ดวงตา ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับคลิิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
Add Line :: https://lin.ee/bptEM7t
Inbox :: m.me/117199148034858
Tel :: 082 905 6956
Map ::
https://maps.app.goo.gl/p6BfXS5pqx26gqBb6